#วงในบอกมา
- ก่อนจะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น “Shichi Japanese Restaurant” ทางร้านใช้เวลาพัฒนาสูตรอาหารและคัดสรรวัตถุดิบ นานถึง 1 ปีเต็ม!
- ปลาต่าง ๆ ภายในร้านนำเข้าโดยไม่ผ่านการแช่แข็ง จากตลาดโทโยสุ ประเทศญี่ปุ่น 3 ครั้ง / สัปดาห์โดยมีทีมงานไปรับตั้งแต่เช้ามืดตั้งแต่ตลาดเปิด จึงมั่นใจได้ว่าสดใหม่แน่นอน
- “Shichi Suki” สุกี้แห้งเนื้อสไตล์คันไซที่ทางร้านอยากนำเสนอ โดยเชฟเคี่ยวซอสสุกี้นานกว่า 24 ชม. อีกทั้งใช้เนื้อ A5 มาทำ ใครได้กินเป็นต้องติดใจ!

วันหยุดทั้งทีไม่อยากขับรถออกไปไหนไกล แต่ใจกลับเรียกร้องหาอาหารญี่ปุ่น และเหล่าน้อง ๆ ซูชิ ปลาดิบทั้งหลายซะงั้น โชคดีค่ะที่พี่สาวคนสนิทได้ชี้ทางสว่าง ให้ลายแทงขุมทรัพย์ร้านอาหารญี่ปุ่นราชพฤกษ์ “Shichi Japanese Restaurant” แห่งนี้มาให้ ที่สำคัญนางยังย้ำมาอีกว่า กินที่นี่ เหมือนได้ไปเลือกซื้อปลาดิบกินเองที่ตลาดโทโยสุ ประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ ไม่รอช้ารีบส่องเพจทางร้านอาหารญี่ปุ่น “Shichi Japanese Restaurant” ทันทีทันใด บอกเลยว่านอกจากจะละลานตากับอาหารญี่ปุ่นกว่า 100 เมนู แล้วยังสะดุดตาอย่างแรงกับแฮชแท็ก #รสชาติที่คุณไม่อาจลืม #UnforgettableTaste แบบสุด! แบบนี้ไม่รอช้า ขอรีบแจ้นไปกินอาหารญี่ปุ่นฟิน ๆ เลยดีกว่าจ้า

สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่น “Shichi Japanese Restaurant” ถือเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นราชพฤกษ์ที่เลอค่ามากหนึ่งร้านเลยล่ะค่ะ เพราะที่นี่มีการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมเท่านั้น ที่สำคัญยังเน้นที่ความสดใหม่และมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่หากินได้ที่นี่ที่เดียว! โดยความพิเศษอยู่ที่เนื้อปลาต่าง ๆ ส่งตรงจากตลาดโทโยสุ ประเทศญี่ปุ่น แบบสดที่สุดในช่วงเช้ามืดตั้งแต่ตลาดเปิด โดยจะนำเข้า 3 วันต่อสัปดาห์โดยไม่ผ่านการแช่แข็ง จึงทำให้ได้รสชาติตามธรรมชาติและความสดของเนื้อปลาเต็ม ๆ จากนั้นจึงนำปลามาแล่เองทั้งตัว เนื้อปลาของร้านอาหารญี่ปุ่นราชพฤกษ์ "Shichi Japanese Restaurant" มีรสสัมผัสพิเศษที่สดใหม่ กินแล้วละลายในปากทุกคำ!

มาเริ่มกันด้วยเมนูซิกเนเจอร์ ที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา! “Shichi Suki” (450 บาท) สุกี้แห้งเนื้อสไตล์คันไซที่มีความเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ โดยเชฟแอบบอกมาว่าเคี่ยวซอสสุกี้สูตรเฉพาะนานกว่า 24 ชม. อีกทั้งใช้เนื้อวากิว A5 มาทำอีกด้วย แค่มาเสิร์ฟก็หอมจนอดใจไม่ไหว รีบเจาะไข่แดงแล้วคลุกกินอย่างเร็วไว บอกเลยว่าได้รสชาติที่ครบรส หวาน เค็ม อูมามิแบบที่เชฟบอกเลย


ตามมาติด ๆ “Shichi Dynamite” (2,500 บาท) เนื้อวากิวนำเข้าจากออสเตรเลียส่วนซี่โครง ทางร้านเน้นที่ไม่มันและไม่เลี่ยน โดยจะนำมากริลล์ก่อน จากนั้นนำไปใส่เครื่องซูวีด์ เพื่อให้อุณหภูมิคงที่ 30 ชม. ก่อนนำไปย่างไฟและเสิร์ฟ สำหรับเมนูนี้สายเนื้อจะกดเลิฟแน่ ๆ เพราะเนื้อ A5 เต็มปากเต็มคำ แถมยังนุ่ม ได้รสชาติและกลิ่นหอมตามแบบฉบับของเนื้อเต็ม ๆ

มาร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งที ถ้าไม่กินปลาดิบก็เหมือนมาไม่ถึง! จัดไปกับเซต “Shichi Sashimi” (2,500 บาท) ปลาดิบรวม 7 อย่าง ประกอบไปด้วย Otoro ส่วนที่มันท่ีสุดของปลาทูน่า รสสัมผัสแรกที่คีบเข้าปากคือละลายในปากสุด ๆ, Akami ทูน่าส่วนหลังเนื้อแดง ไขมันน้อย, Hamachi เป็นปลาข้างเหลือง แพรชอบมากเลยล่ะค่ะเพราะมีเทกซ์เจอร์ของไขมันที่แทรกกำลังดี, Ama Ebi กุ้งหวานตัวเล็ก จุดเด่นคือรสชาติที่หวานกว่ากุ้งปกติทั่วไป, Nama Hotate หอยเชลล์ฮอกไกโดไซส์ใหญ่คัดพิเศษ หวานธรรมชาติ ไร้ความคาว และ Madai ปลากะพงเนื้อแดง โดยสำหรับเจ้าตัวนี้สามารถกินได้สองแบบค่ะ คือ จิ้มกินคู่กับโชยุหรือจะโรยเกลือและบีบมะนาว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่ชื่นชอบมากเพราะไขมันค่อนข้างน้อยแต่ความหวานของปลาแบบว่าชัดเจนสุด ๆ

อีกเมนูที่มาร้านนี้แล้วต้องสั่ง ! “Shichi Roll” (370 บาท) โรลแซลมอนราดซอสเมนไทโกะ เป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ขายดีมาก โดดเด่นด้วยปลาแซลมอนนอร์เวย์นำไปเบิร์นด้วยไฟหอม ๆ และซอสไข่ปลาที่ทำมาจากไข่ปลาเมนไทโกะท็อปด้วยแป้งเทมปุระกรอบ ๆ จากนั้นราดด้วยซอสหวานอีกที ท็อปอีกคร้ังด้วยไข่โทบิโกะ โปะบนข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่ม ฟินได้แบบไม่ต้องจิ้มโชยุใด ๆ

“Ko Ebi Karage” (220 บาท) กุ้งที่ทอดด้วยแป้งสูตรพิเศษจึงทำให้หอม กรอบทั้งตัว ที่สำคัญ ทิ้งไปสักพักก็ยังกรอบอยู่ นอกจากแป้งที่เป็นจุดเด่นแล้ว อีกอย่างที่ประทับใจ คือซอสเมนไทโกะ ที่นี่ทำมาได้ดีทีเดียวค่ะกับรสชาติเข้มที่มีรสเผ็ดติดลิ้นนิด ๆ ถือเป็นเมนูกินเล่นที่เพลินสุด ๆ


มากันที่เมนูเบา ๆ แต่ไซส์ใหญ่กันบ้าง “Salmon Skin Salad” (M 220 บาท L 420 บาท) สลัดหนังปลาแซลมอน ที่เสิร์ฟมาเป็นต้องร้องโอ้โห! เพราะทางร้านจัดมาในถ้วยไม้ไซส์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ นอกจากจะไซส์ใหญ่แล้ว ยังให้ผักต่าง ๆ มาเยอะมากอีกด้วย ท็อปมาด้วยปลาแซลมอนสีส้มสด ลายสวยงาม กินคู่กับซอสมายองเนสที่ทางร้านคลุกเคล้ามาให้ เรียกได้ว่าเป็นสลัดที่เข้ากันดีแบบหาที่ติไม่เจอเชียวล่ะ

และอีกเมนู “Zaru Inaniwa Cold” (320 บาท) เส้นอุด้งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เกิดจากเทคนิคการทำเส้นให้มีความแบนไม่กลมเหมือนอุด้งทั่วไป เนื้อเส้นนุ่ม เหนียว ทุกสัมผัส เสิร์ฟแบบเย็น บนถาดที่สานจากไม้ไผ่ เรียกว่า Zaru และมีซอสให้กินคู่กับเมนูเย็นเป็นซอส ทสึยุ ถือเป็นอีกเมนูที่คนรักอุด้งต้องลิ้มลอง

ก่อนจะจบอาหารคาว ขอสั่งเมนูโปรดในใจตลอดกาลมาอีกสักเมนู “Ebi Tempura” (420 บาท) กุ้งแชบ๊วยที่ทางร้านคัดไซส์ใหญ่พิเศษ นำมาทอดกับแป้งจนฟูกรอบ และทีเด็ดคือน้ำจิ้มสีทองที่ใช้หัวเชื้อน้ำจิ้มโดยเฉพาะ ที่สำคัญยังหอมขิงบดและหัวไชเท้าสุด ๆ

ก่อนจะไม่เหลือพื้นที่ว่างในกระเพาะอาหาร ขอปิดท้ายมื้อนี้ด้วย “Kaki Kori” (180 บาท) คากิโกริสตรอว์เบอร์รีสีแดงสด ที่ทางร้านทำออกมาได้ลงตัวมาก ๆ กับรสชาตินมและความเปรี้ยวหวานของสตรอว์เบอร์รีสด ๆ เป็นการปิดมื้อนี้ที่หวาน และสดชื่นมาก ๆ เลยล่ะค่ะ :)


เรียกได้ว่าฟินกับอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม ที่ไม่ต้องไปไหนไกลเลยล่ะค่ะ กับร้านอาหารราชพฤกษ์ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นกว่า 100 เมนู ใครอยากมาดื่มด่ำความพรีเมียมและสดใหม่แบบนี้มากันได้เลยค่ะที่ร้านอาหารญี่ปุ่น “Shichi Japanese Restaurant” หรือสามารถติดตามโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่ Facebook : Shichibkk และ Instagram : Shichibkk ได้เลยจ้า
การเดินทาง
ร้านอาหารญี่ปุ่นราชพฤกษ์ “Shichi Japanese Restaurant” ตั้งอยู่ที่ ถ.ราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ ภายในโครงการอยู่เย็นการ์เด้น (ติดกับร้านปลาอยู่เย็น) สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัว โดยทางโครงการมีบริการที่จอดรถให้ฟรีค่ะ